News & Media

kenan blogs .

เปิดตัวโครงการ “ไฟเซอร์ รู้-เฒ่า(เท่า)-ทัน-สุข” กระตุ้นคนไทยเตรียมสุขก่อนสูงวัย

มกราคม 26, 2023

มูลนิธิไฟเซอร์ประเทศไทย ร่วมกับมูลนิธิคีนันแห่งเอเซีย กระตุ้นคนไทยเตรียมสุขก่อนสูงวัย เปิดตัวโครงการ “Pfizer Healthy Aging Society” หรือ “ไฟเซอร์ รู้-เฒ่า(เท่า)-ทัน-สุข” ปฏิบัติการความรู้เชิงรุกเพื่อสร้างสังคมสุขสูงวัยอย่างแท้จริง เผยอีก 15 ปีไทยมีจำนวนประชากรสูงอายุมากเป็นอันดับหนึ่งในอาเซียน และมีแนวโน้มเจ็บป่วยและเสียชีวิตจากโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs) มากที่สุด เนื่องจากขาดความรู้เรื่องพฤติกรรมสุขภาพเหมาะสม รณรงค์รู้เท่าทันและเตรียมพร้อมตั้งแต่อายุ 45 ปีเพื่อเดินหน้าเข้าสู่สังคมผู้สูงวัยอย่างมีคุณภาพ กายฟิต-จิตดี-มีออม ชี้รอเกษียณอาจสายเกินไป

มร.เซลิม เซสกิน ประธานกรรมการมูลนิธิไฟเซอร์ประเทศไทย กล่าวว่ามูลนิธิไฟเซอร์ประเทศไทย และบริษัท ไฟเซอร์ (ประเทศไทย) จำกัดมีการดำเนินภารกิจที่ต่างกันด้วยเป้าหมายเดียวกัน (2 Missions : 1 Goal) คือการมุ่งที่จะมอบ “คุณภาพชีวิตที่ดี” สำหรับคนทุกเพศทุกวัย โดยให้ความสำคัญกับสังคมผู้สูงวัย (Aging Society) ตั้งแต่ในระดับโลก อาทิ การดำเนินโครงการเก็ท โอลด์ (Get Old) ของบริษัทแม่ในสหรัฐอเมริกา รวมถึงการดำเนินงานที่สอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Goals – SDGs) ขององค์การสหประชาชาติ ในด้านการรับรองการมีสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีของทุกคนในทุกช่วงอายุ ด้วยการการประกาศเจตนารมณ์ร่วมกับองค์กรต่างๆ ระดับโลกระหว่างการประชุม World Economic Forum ณ กรุงดาวอส สวิตเซอร์แลนด์ เมื่อต้นปีที่ผ่านมา เพื่อต่อสู่กับโรคไม่ติดต่อเรื้อรังหรือ NCDs (Non-Communicable Diseases) ซึ่งเป็นภัยคุกคามของสังคมผู้สูงวัย โดยจะร่วมกันลดจำนวนผู้เสียชีวิตจากโรค NCDs ให้ได้ในอัตรา 1 ใน 3 ภายในปี 2030 (พ.ศ.2573)

“สำหรับในประเทศไทยนั้น ปัจจุบันมีสัดส่วนประชากรกลุ่มสูงวัยคิดเป็นร้อยละ14.9 ของประชากรทั้งประเทศ และมีแนวโน้มที่จะสูงขึ้นเป็นร้อยละ 30 ภายใน 15 ปีข้างหน้า ซึ่งจะทำให้ประเทศไทยมีสัดส่วนประชากรผู้สูงวัยมากเป็นอันดับหนึ่งของอาเซียน ก่อให้เกิดเป็น “สังคมผู้สูงวัยโดยสมบูรณ์” (Aged Society) เพราะสภาพสังคมและเศรษฐกิจ ทำให้อัตราการเกิดลดลง ขณะเดียวกันความก้าวหน้าทางสาธารณสุขทำให้ผู้สูงวัยมีอายุยืนยาวขึ้น แต่อายุที่ยืนยาวขึ้นนั้น ไม่ได้หมายความว่าผู้สูงวัยจะมีสุขภาพที่ดีขึ้นตามไปด้วย หากไม่ได้มีการเตรียมพร้อมล่วงหน้าก่อนที่จะเป็นผู้สูงวัย ซึ่งภัยคุกคามด้านสุขภาพที่สำคัญของผู้สูงวัยไทย คือกลุ่มโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (Non-Communicable Diseases) หรือ NCDs อาทิ โรคเบาหวาน โรคหลอดเลือดสมองและหัวใจ โรคมะเร็ง โรคความดันโลหิตสูง และโรคอ้วนลงพุง โดยโรคเหล่านี้ ปัจจุบันกำลังเป็นสาเหตุหลักของการเสียชีวิตในประชากรไทย ซึ่งเป็นผลมาจากรูปแบบการใช้ชีวิตและการไม่ตระหนักถึงความสำคัญในเรื่องสุขภาพมาตั้งแต่ช่วงก่อนก้าวสู่วัยสูงอายุ ซึ่งภัยคุกคามด้านสุขภาพดังกล่าวจะส่งผลกระทบในหลายมิติ ตั้งแต่ระดับบุคคลจนถึงระดับประเทศ เห็นได้จากรายงาน The World in 2050: The Long View: How will the global economic order change by 2050? โดยบริษัทไพร้ซวอเตอร์เฮาส์คูเปอร์ส ซึ่งระบุว่าในอีก 34 ปีข้างหน้า (พ.ศ.2593 หรือ ค.ศ. 2050) ประเทศเพื่อนบ้านในแถบอาเซียน อาทิ อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ เวียดนาม และมาเลเซีย จะมีอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจแซงหน้าไทย เนื่องจากไทยจะเผชิญกับภาวะขาดแคลนประชากรวัยทำงาน อัตราการเกิดจะน้อยกว่าอัตราการเสียชีวิต และเป็นสังคมผู้สูงวัย

มูลนิธิไฟเซอร์ประเทศไทย เห็นถึงความสำคัญของปัญหาดังกล่าว และต้องการสร้างความตระหนักรู้ถึงการเตรียมความพร้อมก่อนสูงวัย จึงได้ร่วมมือกับมูลนิธิคีนันแห่งเอเซีย ดำเนินโครงการ “Pfizer Healthy Aging Society หรือ ไฟเซอร์ รู้-เฒ่า(เท่า)-ทัน-สุข” ปฏิบัติการความรู้เชิงรุก เพื่อสร้างสังคมสุขสูงวัยอย่างแท้จริง ด้วยความเชื่อมั่นว่าหัวใจสำคัญในการเตรียมความพร้อมให้สังคมไทยเข้าสู่สังคมผู้สูงวัยสุขภาพดีมีคุณภาพ คือการปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตและพฤติกรรมสุขภาพตั้งแต่วัยก่อนสูงอายุจนถึงวัยสูงอายุ โดยมีเป้าหมายหลักคือ การสร้างรูปแบบการดูแลสุขภาพแบบองค์รวมสำหรับประชากรวัยก่อนวัยสูงอายุ และวัยสูงอายุ เพื่อนำไปสู่สังคมผู้สูงวัยที่มีสุขภาพดีอย่างยั่งยืน สามารถประยุกต์และปรับใช้ได้กับบริบทของสังคมไทยได้จริง โดยโครงการนี้ถือเป็นโครงการแรกที่รณรงค์เตรียมความพร้อมของวัยก่อนสูงวัย

ด้าน นายปิยะบุตร ชลวิจารณ์ ประธานอำนวยการมูลนิธิคีนันแห่งเอเซีย กล่าวว่า “โครงการนี้ถูกออกแบบให้เป็น Knowledge-Based Project จึงมีการเก็บข้อมูลกลุ่มเป้าหมายก่อนลงมือเตรียมความพร้อมของประชากรเพื่อวัยสูงอายุที่มีคุณภาพ โดยมีระยะเวลาดำเนินงาน 3 ปี (สิงหาคม 2559 – สิงหาคม 2562) พื้นที่การดำเนินงานได้แก่ กรุงเทพมหานคร (เขตคลองเตยและบางขุนเทียน) ซึ่งได้เริ่มดำเนินโครงการแล้ว และจะเริ่มขยายขอบเขตการดำเนินโครงการไปยังจังหวัดอุบลราชธานี (อ.เมือง และ อ.วารินชำราบ) ในช่วงสิงหาคมปีนี้ สาระสำคัญที่นำมาเป็นหัวใจของการดำเนินโครงการนี้มี 5 ประการ คือ (1) มุ่งเตรียมความพร้อมในกลุ่มคนวัยก่อนเกษียณ โดยจะมีการสร้างรูปแบบการดูแลสุขภาพแบบองค์รวมสำหรับประชากรก่อนวัยสูงอายุ (45-59 ปี) เป็นกลุ่มเป้าหมายหลัก และวัยสูงอายุ (60 ปีขึ้นไป) เป็นกลุ่มเป้าหมายรอง นับเป็นการขยายขอบเขตการทำงานที่พัฒนาของคีนันไปสู่กลุ่มผู้รับผลประโยชน์ใหม่ คือ วัยก่อนสูงวัย ผู้สูงวัย และผู้ทำงานด้านสูงวัย (2) เน้นการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพ ผ่านการให้ความรู้ด้านสุขภาพ (3) สร้างพันธมิตร ด้วยการเชื่อมโยงภาครัฐ เอกชน และประชาสังคม หรือ Public-Private Partnership ดังเช่นการสนับสนุนจากมูลนิธิไฟเซอร์ประเทศไทย เพื่อก่อให้เกิดการขับเคลื่อนนโยบายและนำไปสู่การปฏิบัติ ซึ่งเป็นกุญแจสำคัญที่ทำให้โครงการบรรลุเป้าหมาย (4) เพิ่มศักยภาพของระบบสาธารณสุขและโรงเรียน สร้างการมีส่วนร่วมตั้งแต่เริ่มโครงการ และ (5) พัฒนาแบบองค์รวม ครอบคลุมทั้งด้านสุขภาพ สังคม และเศรษฐกิจ”

โครงการนี้ได้เริ่มการดำเนินงานมาตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2559 ที่ผ่านมา เริ่มจากการลงพื้นที่เพื่อเก็บข้อมูลด้านสุขภาพ สังคม และเศรษฐกิจของผู้สูงวัยในพื้นที่กรุงเทพฯ และอุบลราชธานี โดยทีมสาธารณสุขของคีนัน พบข้อมูลสำคัญว่าการจะช่วยให้คนไทยสูงวัยอย่างมีคุณภาพชีวิตนั้น หากรอให้ถึงวัยเกษียณอาจสายเกินไป จึงมีความจำเป็นที่จะต้องเตรียมความพร้อมให้แก่กลุ่มก่อนสูงวัยหรืออายุ 45-59 ปี เพื่อสร้างศักยภาพและการวางแผนทั้งด้านสุขภาพ สังคม และเศรษฐกิจให้พร้อมก่อนถึงวัยเกษียณ และจากการทำงานใน Study Phase เป็นการเก็บข้อมูลกับกลุ่มก่อนสูงวัย (Pre-Seniors) ในเขตบางขุนเทียนและเขตคลองเตย กรุงเทพฯ พบว่าแม้ว่ากลุ่มตัวอย่างจะเริ่มตระหนักถึงความท้าทายที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้ แต่ยังขาดการเตรียมพร้อมในทุกด้าน ซึ่งส่วนใหญ่ยังขาดความรู้และความใส่ใจเรื่องการดูแลสุขภาพ มากกว่าครึ่งของผู้ตอบแบบสอบถามเริ่มมีโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs) และยังไม่มีเงินออมที่เพียงพอสำหรับการใช้ในวัยเกษียณ จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องเสริมศักยภาพและให้ความรู้ด้านสุขภาพและการวางแผนรับมือวัยเกษียณแก่คนเหล่านี้อย่างเร่งด่วน ก่อนที่จะลุกลามเป็นปัญหาสังคม

ภ.ญ.ศิริวรรณ ชื่นชมสกุล กรรมการและเลขานุการ มูลนิธิไฟเซอร์ประเทศไทย กล่าวว่า “มูลนิธิฯ และสถาบัน
คีนันแห่งเอเซียตั้งใจให้โครงการนี้เป็นการทำงานบนฐานความรู้ สู่การสร้างองค์ความรู้ใหม่ๆ เพื่อการเตรียมความพร้อมสู่สังคมผู้สูงวัยของไทย ซึ่งแม้ว่าจะมีมาตรการกลไกของภาครัฐที่กำกับดูแลอยู่โดยตรง แต่ความร่วมมือกันระหว่างทุกภาคส่วนก็ยังเป็นเรื่องจำเป็น โดยมูลนิธิฯ จะมีการทำงานอย่างสอดประสานไปกับภาครัฐ และทุกภาคส่วนในสังคม บูรณาการความรู้ความเชี่ยวชาญและทรัพยากรระหว่างกัน เกื้อหนุนส่งเสริมเพิ่มศักยภาพซึ่งกันและกัน ในการขับเคลื่อนการเตรียมความพร้อมสู่คุณภาพชีวิตผู้สูงวัยไปพร้อมๆ กัน”

“มูลนิธิฯ คาดหวังว่าโครงการนี้ จะมีส่วนช่วยเตรียมความพร้อมสู่คุณภาพชีวิตผู้สูงวัย สร้างสังคมผู้สูงวัยที่มีคุณภาพ และจะสามารถสร้างต้นแบบ ของการบูรณาการความร่วมมือระหว่างแต่ละภาคส่วน ที่มีประสิทธิภาพ เป็นไปได้ เหมาะกับบริบทของไทย สามารถนำไปขยายผลได้ไม่รู้จบ เพื่อนำไปสู่สังคมผู้สูงวัยที่มีสุขภาพดีอย่างยั่งยืน ทั้งนี้นอกจากการขยายผลในประเทศไทยแล้ว ด้วยเหตุที่บริบทของสังคมไทยมีความคล้ายคลึงกับอีกหลายประเทศในอาเซียน เราจึงคาดหวังด้วยว่า ต้นแบบที่จะเกิดขึ้นจากโครงการนี้ จะสามารถปรับใช้ขยายผลได้ในประเทศอาเซียนอื่นๆ และเชื่อมั่นว่าโครงการนี้ นอกจากจะมีส่วนช่วยสร้างสังคมผู้สูงวัยของไทยที่มีคุณภาพแล้ว จะยังมีส่วนเสริมภาครัฐ ในการดำรงความเป็นผู้นำในอาเซียนในอนาคตข้างหน้า” ภ.ญ.ศิริวรรณ กล่าวโดยสรุป

มูลนิธิไฟเซอร์ประเทศไทย

มูลนิธิไฟเซอร์ประเทศไทย เป็นองค์กรการกุศลที่ดำเนินงานอย่างอิสระ จากการริเริ่มและสนับสนุนโดยบริษัท ไฟเซอร์ (ประเทศไทย) จำกัด บริษัทสาขาของไฟเซอร์ อิงค์ แห่งสหรัฐอเมริกา จดทะเบียนก่อตั้งในประเทศไทยเมื่อ พ.ศ. 2544 ภารกิจหลักของมูลนิธิไฟเซอร์ประเทศไทย คือการปฏิบัติงานร่วมกับพันธมิตรที่หลากหลาย เพื่อมอบโอกาสทางการศึกษาและการเรียนรู้ สู่ผู้ต้องการโอกาสทุกกลุ่ม เพื่อส่งเสริมศักยภาพในการสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีมีสมดุล ทั้งในประเทศไทย และประเทศอื่นๆ ในภูมิภาคอินโดไชน่า

ไฟเซอร์ ประเทศไทย – ทุ่มเทกายใจเพื่อสุขภาพที่ดีของทุกคน

บริษัท ไฟเซอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ก่อตั้งโดยไฟเซอร์ อิงค์ ใน พ.ศ. 2501 ไฟเซอร์ ประเทศไทย เป็นบริษัทค้นคว้าวิจัยและผลิตชีวเวชภัณฑ์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ตลอดระยะเวลาเกือบ 60 ปีในเมืองไทย ไฟเซอร์ ประเทศไทยยังคงนำเสนอนวัตกรรมยาและเวชภัณฑ์ใหม่ที่มีความปลอดภัยและมีประสิทธิภาพในการรักษาและป้องกันโรคอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้คนไทยมีชีวิตและสุขภาพที่ดีนอกจากนี้ ยังร่วมมือกับผู้ให้บริการสุขภาพ บุคลากรทางการแพทย์ องค์กรทั้งภาครัฐ เอกชน และชุมชนท้องถิ่นทั่วประเทศ เพื่อขยายการเข้าถึงยาและบริการสนับสนุนการดูแลสุขภาพที่ดียิ่งขึ้น ไฟเซอร์ ประเทศไทย มีพนักงานกว่า 400 คน ร่วมมือกันปฏิบัติงานในทุกวัน โดยยึดมั่นในความรับผิดชอบและการเป็นที่ไว้วางใจของสังคม ด้วยการนำเสนอทางเลือกที่มีประสิทธิภาพและสร้างสรรค์ ในการตอบสนองความต้องการทางการแพทย์ที่หลากหลายของผู้ป่วยในประเทศไทย สนใจดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.pfizer.co.th

มูลนิธิคีนันแห่งเอเซีย

คีนันเป็นองค์กรไม่แสวงหาผลกำไรชั้นนำของประเทศไทย จดทะเบียนเป็นมูลนิธิคีนันแห่งเอเซีย ก่อตั้งขึ้นเพื่อสนับสนุนการพัฒนาอย่างยั่งยืนในประเทศไทย และในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ คีนันเน้นการทำงานด้านการพัฒนาอย่างยั่งยืนผ่านการให้บริการงานด้านการพัฒนาเศรษฐกิจและภาคธุรกิจ นวัตกรรมการศึกษา การพัฒนาศักยภาพองค์กรภาคประชาสังคม การส่งเสริมด้านความรับผิดชอบต่อสังคมของภาคเอกชน และการสาธารณสุข นับตั้งแต่ปี พ.ศ. 2539 ที่เริ่มก่อตั้ง คีนันได้บริหารโครงการด้วยทุนรวมกว่าหนึ่งพันสองร้อยล้านบาท ปัจจุบันคีนันมีพนักงานกว่า 80 คนเพื่อดำเนินโครงการให้กับภาคธุรกิจ ภาครัฐบาล และกลุ่มองค์กรระหว่างประเทศในประเทศไทยนอกจากนี้ คีนันยังเป็นผู้นำในด้านการบริหารโครงการด้านการมีส่วนร่วมและเข้าถึงชุมชนที่สอดคล้องกับบริบทสำคัญของบริษัทอย่างมีกลยุทธ์ สนใจดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.kenan-asia.org Facebook และ Twitter: Kenan Foundation Asia

Share this article

Related Blogs.

ไอบีเอ็ม จับมือ คีนัน และ ม. มหิดล เปิดโครงการ “Thai Teacher TryScience”
บริษัท ไอบีเอ็ม ประเทศไทย จํากัด มูลนิธิคีนันแห่งเอเซีย และสถาบันนวัตกรรมการเรียนรู้ มหาวิทยาลัยมหิดล...
กองทุนโลกและกระทรวงสาธารณสุขจับมือคีนันพัฒนาโมเดล “แก้ปัญหาโรคมาลาเรีย และอาการดื้อยา” ในพื้นที่ชายแดนไทย
มูลนิธิคีนันแห่งเอเซีย ร่วมกับ กรมควบคุมโรคฯ โดยการสนับสนุนจากกองทุนโลกลดการระบาดและการดื้อยาของผู้ป่วยโรคมาลาเรีย...
มูลนิธิซิตี้ ร่วมกับมูลนิธิคีนันแห่งเอเซีย จัดเวทีเสวนาระดมสมองเรื่อง “การพัฒนาทักษะชีวิต เรื่องความรู้ในการบริหารการเงินส่วนบุคคลสำหรับกลุ่มนักเรียนนักศึกษา” หลังพบว่ากลุ่มนักเรียนนักศึกษาเป็นหนึ่งใน 3 กลุ่มวิกฤติที่ขาดความรู้และทักษะด้านการเงิน
28 กรกฎาคม 2557 กรุงเทพฯ- มูลนิธิซิตี้ ร่วมกับมูลนิธิคีนันแห่งเอเซีย จัดเวทีเสวนาระดมสมองเรื่อง การพัฒนาทักษะชีวิต...

Latest Blogs.

View more
Slide 1 Heading
Lorem ipsum dolor sit amet consectetur adipiscing elit dolor
Click Here
Slide 1 Heading
Lorem ipsum dolor sit amet consectetur adipiscing elit dolor
Click Here
Slide 1 Heading
Lorem ipsum dolor sit amet consectetur adipiscing elit dolor
Click Here
Slide 1 Heading
Lorem ipsum dolor sit amet consectetur adipiscing elit dolor
Click Here

Subscribe to our newsletter!

Kenan Foundation Asia believes in a world where
vulnerable populations are empowered to succeed in
an inclusive society.

Thailand Charitable Organization Registration #350, under the Ministry of Finance US 501(c)3 Equivalency Status