ด้วยความเชื่อที่ว่า เด็กทุกคนมีความเป็นผู้นำ และสามารถสร้างการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกให้กับในสังคมได้ มูลนิธิคีนันแห่งเอเซียจึงอยากเห็นเด็ก ๆ ออกมาลงมือสร้างการเปลี่ยนแปลงนั้นด้วยตัวเอง โดยเฉพาะเรื่องที่พวกเขามองว่าเป็นปัญหา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการศึกษา สิ่งแวดล้อม หรือแม้แต่เรื่องสุขภาพ
โครงการชมรมนวัตกรรมสุขภาพวัยใส (Inno-Health Club) โดยมูลนิธิคีนันแห่งเอเซีย ได้ดำเนินโครงการเพื่อส่งเสริมองค์ความรู้ด้านสุขภาพที่ถูกต้องและสร้างความเป็นอยู่ที่ดีให้กับวัยรุ่นหญิงในพื้นที่เปราะบางของกรุงเทพมหานคร ผ่านการเรียนการสอนใน 6 บทเรียน ได้แก่ สุขภาพกาย สุขภาพใจ การกินและการออกกำลังกาย สารเสพติด อนามัยเจริญพันธุ์และเพศศึกษา และสิทธิเด็ก ทั้งนี้ มูลนิธิคีนันฯ ยังเสริมศักยภาพให้เยาวชนเหล่านี้สามารถส่งต่อความรู้ให้ผู้อื่น และจุดประกายการแก้ไขปัญหาด้านสุขภาพกับคนในชุมชน เพราะเราเชื่อว่าการมีพื้นฐานความรู้ที่ถูกต้องประกอบกับความเข้าใจปัญหาในฐานะผู้ที่อยู่ในชุมชน จะเป็นกุญแจสำคัญที่สามารถบรรเทาปัญหาได้อย่างตรงจุด

จากการทำงานร่วมกับเยาวชนตลอดระยะเวลากว่า 1 ปีที่ผ่านมา พี่ ๆ จากมูลนิธิคีนันฯ ได้มีโอกาสพูดคุยกับเด็ก ๆ ในหลากหลายประเด็น พวกเขามีความคิดเห็นที่คล้ายคลึงกันและแสดงให้เห็นถึงรูปแบบของ “ปัญหาทางสังคม” ที่เด็กอย่างพวกเขาต้องรับมือ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องสุขภาพกายและสุขภาพใจ โดยตัวแทนนักเรียน หรืออาสาสมัครสุขภาพวัยใสจากโรงเรียนกิ่งเพชรบอกกับเราว่า
“หนูเคยเจอคนติดยาเสพติดเดินเข้ามาขอเงินอะไรแบบนี้ ก็รู้สึกว่าอันตรายค่ะ หนูอยากให้เขาได้รับการบําบัดให้มันดีขึ้นนะคะ”
“หนูเป็นคนเครียดง่าย เวลาเกิดความรู้สึกแย่ ไม่รู้ว่าจะจัดการยังไง ทําให้ความรู้สึกมันก็อัดอั้นอยู่ในนั้นนาน”

“เราอยากให้น้อง ๆ ส่งต่อองค์ความรู้เรื่องสุขภาพที่ถูกต้องไปยังเพื่อน ๆ หรือผู้คนรอบข้างได้ ผ่านการพูดคุยหรือการพบเจอกันในวันธรรมดา ๆ และเราอยากให้เขาเข้าใจว่าแม้ตนเองจะเป็นเด็ก แต่ก็เป็นกลุ่มที่มีบทบาทสำคัญในการสร้างความเปลี่ยนแปลงบางอย่างในสังคมได้เช่นกัน” ฐิติรัตน์ แสวงสุข ผู้ประสานงานโครงการ มูลนิธิคีนันฯ อธิบาย
นอกจากนี้ ความหวังที่อยากจะเห็นเด็กทุกคนเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่เข้มแข็งทั้งกายและใจเป็นเป้าหมายระยะยาวที่ต้องการความสม่ำเสมอและความร่วมมือจากหลากหลายภาคส่วน โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากผู้ใหญ่และผู้นำชุมชน


ภายหลังจากการเรียนการสอนด้านสุขภาพ เราเปิดโอกาสให้เด็ก ๆ ที่มีความสนใจด้านสุขภาพในโรงเรียนและชุมชนได้สมัครเข้าร่วมเป็นอาสาสมัครสุขภาพวัยใส หรือแกนนำนักเรียนที่ดำเนินกิจกรรมเพื่อแก้ไขปัญหาสุขภาพ โดยนักเรียนกลุ่มนี้จะมีบทบาทในการริเริ่ม ออกแบบและดำเนินการจัดกิจกรรมเพื่อแก้ไขปัญหาด้วยตัวเอง โดยมีอาสาสมัครสาธารณสุขกรุงเทพมหานคร (อสส.) คุณครู และเจ้าหน้าที่มูลนิธิคีนันฯ เป็นผู้ให้คำปรึกษาและให้การสนับสนุน
“เราทำงานกับเด็กและผู้ใหญ่ในชุมชนไปพร้อมกัน ก่อนหน้านี้เรามีการพูดคุยหาแนวทางว่าจะทำอย่างไรให้น้อง ๆ สามารถเป็นอีกหนึ่งแรงที่ช่วยเรื่องการส่งเสริมสุขภาพคนในชุมชน เรามีการเชิญพี่ ๆ อสส. เข้าไปร่วมส่งต่อประสบการณ์การทำงานให้กับน้อง ๆ กระชับความสัมพันธ์ของคนสองรุ่น ซึ่งเราก็พบว่าคนสองกลุ่มนี้ยังขาดพื้นที่ให้พูดคุย แลกเปลี่ยนแนวคิดกันได้” ฐิติรัตน์ เน้นย้ำถึงความสำคัญของการสร้างการมีส่วนร่วมจากผู้ใหญ่ในชุมชน โดยจากการสำรวจในโครงการพบว่า เด็ก ๆ ในโรงเรียนไม่ค่อยมีปฏิสัมพันธ์กับผู้ใหญ่ในชุมชนมากนัก เราจึงส่งเสริมให้เกิดพื้นที่เล็ก ๆ ที่ผู้ใหญ่และเด็กสามารถใช้เวลาร่วมกัน ผ่านกระบวนการคิดกิจกรรมส่งเสริมสุขภาพ
ก่อนเริ่มลงมือทำ เราได้พาอาสาสมัครสุขภาพวัยใสเหล่านี้ไปทำความเข้าใจกับปัญหา โดยการเรียนรู้ผ่านกิจกรรม (Activity-based learning) เช่น การวาดภาพแผนที่ชุมชน ซึ่งเป็นหนึ่งในเครื่องมือที่ช่วยให้เด็ก ๆ ได้มองเห็นมิติความสัมพันธ์ของพื้นที่และปัญหาสุขภาพ รวมถึงเปิดโอกาสให้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ได้ร่วมกันแสดงความคิดเห็น นำมาสู่วิธีการแก้ไขปัญหาด้านสุขภาพต่าง ๆ เช่น การเปิดพื้นที่ศิลปะบำบัดความเครียด การทำกล่องสุ่มการ์ดให้กำลังใจเพื่อนภายในโรงเรียน การทำภาพยนตร์สั้นเพื่อสร้างความตระหนักเรื่องยาเสพติด เป็นต้น

“โครงการคลองเตย เติมสุขด้วยศิลปะ” เป็นหนึ่งในกิจกรรมแก้ไขปัญหาสุขภาพที่ดำเนินการโดยกลุ่มอาสาสมัครสุขภาพวัยใสของโรงเรียนชุมชนหมู่บ้านพัฒนา เขตคลองเตย เนื่องจากปัญหาที่พบมากในโรงเรียนและชุมชนโดยรอบ คือปัญหาสุขภาพจิต ซึ่งมาจากความเครียด และการขาดการสนับสนุนซึ่งกันและกันในชุมชน จึงเป็นที่มาของการชักชวนเพื่อน ๆ ในโรงเรียนและสมาชิกในชุมชนเข้ามาใช้เวลาร่วมกันทำกิจกรรมวาดภาพบนผ้าใบ เพื่อสร้างพื้นที่อารมณ์เชิงบวก

“ในชุมชนมีปัญหาครอบครัวเยอะแยะไปหมด แต่อย่างน้อยกิจกรรมนี้ก็เป็นพื้นที่หนึ่งที่เขาได้พักผ่อน”
“กิจกรรมแบบนี้ไม่เคยเกิดขึ้นในชุมชนเลย แม้แต่ครั้งเดียว…ตอนแรกที่ไปชวนเด็ก ๆ ในชุมชนมา น้องบอกป้าว่าขอชั่วโมงเดียวนะ แต่พอมาถึงแล้วก็อยู่ยาวเลย เด็ก ๆ ชอบมาก ป้าว่าดีกับสุขภาพเขานะ”
นิตยา ทุมมานนท์ และพนิดา ทองศักดิ์ อาสาสมัครสาธารณสุขกรุงเทพมหานคร และตัวแทนผู้ใหญ่ในชุมชนที่มาเข้าร่วมกิจกรรมบอกกับเรา

“สิ่งที่มันเปลี่ยนไปคือ เขากล้าแสดงออกมากขึ้น กล้าคิดกล้าทํา สามารถเป็นผู้นําได้ แล้วก็สามารถรับรู้วิธีการจัดการกับอารมณ์ของเขาได้ ไม่ให้ส่งผลต่อบุคคลรอบข้างครับ” คุณครูสุราษฎร์ วันธุรัตน์ ในฐานะผู้ให้คำปรึกษาโครงการยืนยันกับเราว่าการจัดกิจกรรมนี้ เป็นส่วนสำคัญที่สามารถส่งเสริมความเป็นผู้นำในการแก้ไขปัญหาและมีส่วนช่วยให้เด็กมีสุขภาพใจที่ดีขึ้น

สำหรับอาสาสมัครสุขภาพวัยใสจากโรงเรียนกิ่งเพชร เขตราชเทวี เด็ก ๆ เลือกจัดกิจกรรม “ซุ้มแนะแนวเรื่องการดูแลสุขภาพในวัยรุ่น” ซึ่งออกแบบเป็นฐานกิจกรรมให้นักเรียนในโรงเรียนได้ร่วมสนุก เช่น การเล่นวงล้อตอบปัญหาสุขภาพเพื่อแลกของรางวัล และการชมภาพยนตร์สั้นเกี่ยวกับยาเสพติด กิจกรรมเหล่านี้ไม่เพียงช่วยขยายความรู้ไปยังนักเรียนคนอื่น ๆ แต่เรายังได้เห็นพัฒนาการความเป็นผู้นำของเด็ก ๆ ในบทบาทพิธีกร เจ้าหน้าที่ประจำฐานกิจกรรม หรือคนที่คอยช่วยดูแลผู้เข้าร่วมตลอดงาน ด้วยความตั้งใจของพวกเขา ส่งผลให้กิจกรรมนี้ได้รับเสียงตอบรับที่ดีมาก และสร้างรอยยิ้มให้กับผู้เข้าร่วมทุกคน

“หลังจากทำกิจกรรม จริง ๆ มันรู้สึกใจฟูมากค่ะ รู้สึกดีที่การส่งต่อข้อมูลให้คนอื่น สามารถช่วยให้เขาได้เข้าใจมากขึ้น ทำให้รู้สึกว่าอยากหาข้อมูลมาเล่าให้คนอื่นฟังอีกเยอะ ๆ ค่ะ”
“พวกหนูช่วยกันหาข้อมูลเรื่องสุขภาพกับเพื่อน ๆ เพื่อจะมานำเสนอให้น้อง ๆ ในโรงเรียนได้ฟังค่ะ พอได้เล่าแล้วก็เห็นว่าหลายคนมีความสุขที่ได้ทำกิจกรรมกับเรา หนูมีความสุขมากค่ะ”
ตัวแทนอาสาสมัครสุขภาพวัยใสจากโรงเรียนกิ่งเพชรแบ่งปันความรู้สึกหลังจากการทำกิจกรรม
ในขั้นตอนที่เยาวชนกลุ่มนี้ได้ทำกิจกรรมกับเพื่อน ๆ เราได้เห็นไอเดียใหม่ ๆ และวิธีการส่งต่อข้อมูลที่มีประสิทธิภาพและเหมาะสมกับคนในช่วงอายุของเขา ซึ่งทำให้เห็นว่าหากมีพื้นที่ให้เด็ก ๆ ได้แสดงออก พวกเขาจะสามารถเป็นตัวของตัวเอง และสร้างความประทับใจให้เราได้เสมอ

“เด็กรุ่นใหม่มีความคิดที่หลากหลายอยู่แล้วค่ะ หนูคิดว่าจริง ๆ แล้วเด็กรุ่นใหม่ก็สามารถแพร่กระจายข่าวสารที่ถูกต้องได้” ตัวแทนอาสาสมัครสุขภาพวัยใสจากโรงเรียนกิ่งเพชรบอกเราด้วยความมั่นใจ
เสียงจากตัวแทนอาสาสมัครสุขภาพวัยใสเหล่านี้ เป็นสิ่งที่สะท้อนให้เห็นว่าเราได้พาเด็กเหล่านี้มาไกลมากกว่าการเป็นผู้รับ แต่พวกเขาสามารถเป็นผู้ให้ ที่สามารถส่งต่อความรู้และทักษะที่ถูกต้องไปยังคนอื่น ๆ ในสังคม
วยการสนับสนุนจากผู้ใหญ่ พวกเขาสามารถเป็นผู้นำในประเด็นต่าง ๆ ที่พวกเขามองว่าเป็นเรื่องสำคัญ และเรามั่นใจว่าความสำเร็จเล็ก ๆ ในวันนี้ จะกลายมาเป็นก้าวสำคัญในอนาคตสำหรับการสร้างสุขภาพที่ดีให้กับชุมชนและสังคมในวงกว้าง โดยมีเด็ก ๆ เป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลง